กองทัพ

ประธานาธิบดีของรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งระดมพลกองทัพ บางส่วนในประเทศ เข้าร่วมในปฏิบัติการ ในประเทศยูเครน

โดยจะเริ่ม เรียกตัวคนเข้ากองกำลังพลสำรอง ในวันที่ 21 กันยายนนี้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัฐเซีย ได้ออกประกาศทางโทรทัศน์ว่า “เราจะระดมพลบางส่วน เพื่อปกป้อง อำนาจอธิปไตย ประชาชน มาตุภูมิและบูรณภาพแห่งดินแดน”

หลังจากการประกาศในครั้งนี้ ทางกองทัพรัฐเซียจะเริ่มระดมพล คนที่เคยได้เข้าร่วมกองทัพ เมื่อในอดีต กว่า 3 แสนคน ให้กลับมาช่วย รัสเซียรบในตอนนี้ โดยนาย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้กล่าวหา ชาติตะวักตก กำลังร่วมมือกัน เพื่อหักหลัง ประเทศรัสเซีย หลังจากที่ทางรัฐบาล ได้ขู่เรื่องการใช้ อาวุธนิวเคลียร์

ปูติน ยังกล่าวอีกว่า ทางกองทัพ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ จำนวณมาก ที่มีไว้เพื่อตอบโต้ ภัยคุกคาม จากชาติตะวันตก และสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่คำขู่แต่อย่างใด เพราะทางรัสเซีย จะทำทุกวิถีทาง เพื่อปกป้อง คนและประเทศของเราไว้ พร้อมทั้ง สั่งเพิ่มจำนวณเงินลงทุน ในการผลิตอาวุธในประเทศอีกด้วย

เขายังบอกอีกว่า รัสเซียมีอาวุธมากมายที่จะตอบโต้ภัยคุกคามจากชาติตะวันตก

และนั่นไม่ใช่แค่คำขู่ เพราะรัสเซียจะทำทุกทางเพื่อปกป้อง “คนของเรา” ในดอนบาส และสั่งเพิ่มเงินลงทุนในการผลิตอาวุธในประเทศด้วย คำประกาศของนายปูตินทำให้ชาติตะวันตกมองว่าเป็นการยั่วยุ เพราะเพียงไม่นานก่อนหน้านั้น รัสเซียออกมาระบุว่าจะจัดให้มีการลงประชามติฉุกเฉินใ นดินแดนของยูเครนส่วนที่รัสเซียควบคุมอยู่

เพื่อถามประชาชนว่า ต้องการอยู่กับรัสเซียหรือไม่ และแทบจะทันที ผู้บริหารพื้นที่ 4 ภูมิภาค ได้แก่ ลูฮันสก์, โดเนตสก์, แคร์ซอนและซาปอรีเชียก็ออกมาขานรับว่าจะจัดการลงประชามติเริ่มตั้งแต่ 23 ก.ย. นายปูตินบอกว่า เขาหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นที่ไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่ของพวกนาซีใหม่

“ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ไม่เป็นไปตามแผน สตีฟ โรเซนเบิร์ก บรรณาธิการข่าวเกี่ยวกับรัสเซียของบีบีซี บอกว่า การประกาศ “ระดมพลสำรองบางส่วน” ชี้ให้เห็นว่า นายปูตินยอมรับว่า เขาต้องการทหารไปช่วยรบในแนวหน้าเพิ่มเติม และ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน ไม่ได้เป็นไปตามแผนอีกต่อไป

แม้ว่านายปูติน และนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ย้ำว่า จะระดมเฉพาะกำลังพลสำรองเท่านั้น นักศึกษาและทหารเกณฑ์จะไม่ถูกเรียกตัวมารับใช้ชาติ แต่ข่าวใหญ่นี้ก็สร้างแรงกระเพื่อมอย่างกว้างขวางในสังคมแล้ว

วิล เวอร์นอน ผู้สื่อข่าวบีบีซีในกรุงมอสโก บอกว่า ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างหนักทันทีที่มีข่าวนี้ออกมา และก็มีรายงานว่า ราคาตั๋วเครื่องบินสูงขึ้นเพราะมีชาวรัสเซียหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงานวัยหนุ่มสาว ที่คิดจะย้ายออกจากประเทศ

ก่อนหน้านี้ นางจิลเลียน คีแกน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักรบอกว่า คำขู่ต่อชาติตะวันตกว่า เขามีอาวุธมากมายนั้นฟังดู “น่าหวาดหวั่น”

“มันเป็นการขู่อย่างจริงจัง แต่ก็เป็นคำขู่ที่เขาเคยพูดมาแล้ว” เธอบอกกับเรา

กองทัพ

ปฏิกิริยาผู้นำยุโรปต่อการเรียกกำลังพลสำรองของรัสเซีย บรรดาผู้นำในยุโรปมีปฏิกิริยาต่อการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศเรียกกำลังพลสำรองเพื่อร่วมสู้รบในยูเครน

นายเพตเทอร์ เฟียลา นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐเช็ก กล่าวว่า การระดมกำลังพลบางส่วน “คือความพยายามในการยกระดับสงครามที่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน” และ “เป็นการพิสูจน์ว่า รัสเซียเป็นฝ่ายที่ก้าวร้าวเพียงฝ่ายเดียว”

นายเฟียลา กล่าวว่า เป็นเรื่องจำเป็นในการสนับสนุนความช่วยเหลือแก่ยูเครนต่อไป และเพื่อผลประโยชน์ของสาธารณรัฐเช็กเอง สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศแรกที่ส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครน และนับตั้งแต่นั้นก็ได้ส่งทั้งรถถัง เฮลิคอปเตอร์ และระบบปืนใหญ่ให้แก่ยูเครนเรื่อยมา

นายโรแบร์ ฮาเบก รองนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี เรียกการระดมพลนี้ว่า “เป็นก้าวที่ผิดพลาดและเลวร้ายอีกก้าวหนึ่งของรัสเซีย” นายมาร์ก รูตต์ นายกรัฐมนตรีของเนเธอร์แลนด์ เรียกการระดมพลและแผนการลงประชามติว่า “สัญญาณของความอลหม่าน”

ขณะที่พันธมิตรของนายปูติน บอกว่า ภัยคุกคามนิวเคลียร์มาจากบรรดาผู้นำชาติตะวันตก นายเซอร์เกย์ มาร์คอฟ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัสเซียจากพรรคของนายปูติน ได้ปกป้องการเรียกระดมกำลังพลสำรองของประธานาธิบดีรัสเซีย

“ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า รัสเซียไม่ได้ทำสงครามกับยูเครน รัสเซียไม่มีเหตุผลที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีต่อชาวยูเครน” เขากล่าวกับรายการทูเดย์ ของบีบีซี เรดิโอ 4

“ชาวยูเครนเป็นพี่น้องของเรา แต่บรรดาชาติตะวันตกยึดครองยูเครน และชาติตะวันตกกำลังต่อสู้กับกองทัพรัสเซียโดยใช้ทหารยูเครนเป็นทาส”

เขาระบุว่า นี่คือความคิดหลักจากคำกล่าวของนายปูติน และนั่นคือเหตุผลที่รัสเซียจำเป็นต้องเรียกกำลังพลสำรองบางส่วน

นายมาร์คอฟ กล่าวต่อว่า “ทุกคนในโลกตอนนี้กำลังคิดถึงสงครามนิวเคลียร์” และการยกระดับเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิด “พฤติกรรมที่บ้าคลั่ง” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนปัจจุบัน

“ไบเดน, จอห์นสัน และทรัสส์ เป็นสาเหตุของสงครามในยูเครน” เขากล่าว ด้านนายอเล็กเซ นาวาลนี บุคคลสำคัญในขบวนการฝ่ายค้านของรัสเซียซึ่งถูกจำคุกอยู่ ระบุว่า การระดมกำลังพลบางส่วนจะนำไปสู่ “โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่”

ทนายความของนายนาวาลนีอัดคลิปของเขาจากเรือนจำและนำมาเผยแพร่ เขากล่าวว่า “นี่จะส่งผลให้เกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก… เพื่อรักษาอำนาจส่วนตัวของเขา (ปูติน) ปูตินเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน สังหารประชาชนที่นั่น และตอนนี้กำลังส่งประชาชนชาวรัสเซียจำนวนมากไปทำสงครามนี้”

นายนาวาลนี ซึ่งเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์นายปูตินที่สำคัญที่สุดในรัสเซีย กำลังรับโทษจำคุกนาน 11 ปีครึ่ง หลังจากถูกตัดสินว่า มีความผิดฐานละเมิดทัณฑ์บน ทุจริต และหมิ่นศาล โดยเขาระบุว่า เป็นข้อหาที่สร้างขึ้นเพื่อยุติความพยายามทางการเมืองและการแข็งข้อของเขา

การระดมกำลังพลสำรองบางส่วนหมายความว่าอย่างไร

นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า การระดมกำลังพลสำรองบางส่วนคิดเป็น 1% ของกำลังพลสำรองทั้งหมดของรัสเซีย

คาดว่ารัสเซียมีกำลังพลสำรองราว 2 ล้านคน โดยพวกเขาคือคนที่เคยเป็นทหารซึ่งเป็นข้อบัญญัติในรัสเซีย กำลังพลสำรอง 300,000 นาย ที่ถูกเรียกในขณะนี้

คือ ทหารที่มีประสบการณ์แต่ว่าไม่มีความชัดเจนว่า หมายความว่าอย่างไร และใครที่เข้าข่ายบ้าง นายชอยกูกล่าวว่า จะไม่มีการเรียกนักศึกษา มาร่วมในการระดมกำลังสำรองครั้งนี้

ขอบคุณแหล่งที่มา : bbc.com

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : bondfund.net